ร้อยไหมเทคนิคยกกระชับหน้า คืนความอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด

การมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์และผิวที่กระชับเต่งตึงเป็นความปรารถนาของใครหลายคน แต่การผ่าตัดดึงหน้าอาจเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล เพราะต้องพักฟื้นนานและมีความเสี่ยง การร้อยไหมจึงกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยม เนื่องจากสามารถยกกระชับใบหน้าและแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่และยังเห็นผลลัพธ์ได้เร็ว

การร้อยไหมคืออะไร?

การร้อยไหมคือหัตถการความงามที่ใช้เส้นไหมละลายทางการแพทย์สอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อช่วยพยุงและดึงผิวให้ยกกระชับ เส้นไหมที่ใช้มักทำจากวัสดุที่สามารถละลายไปเองตามธรรมชาติ เช่น PDO, PLLA หรือ PCL เมื่อเส้นไหมอยู่ใต้ผิว มันจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวค่อยๆ ฟื้นฟู มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น

ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่เพียงแค่การยกผิวในทันที แต่ยังเป็นการปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์ในระยะยาว

ประเภทของเส้นไหมที่นิยมใช้

ปัจจุบันเส้นไหมที่ใช้ในการร้อยไหมมีอยู่หลายชนิด โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ไหม PDO เป็นเส้นไหมที่นิยมใช้มากที่สุด อยู่ในผิวได้ประมาณ 68 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ส่วนไหม PLLA และ PCL เป็นเส้นไหมที่อยู่ในผิวนานกว่า ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว

นอกจากนี้ยังมีเส้นไหมที่ออกแบบมาเฉพาะ เช่น ไหมก้างปลาที่มีเงี่ยงเล็กๆ สำหรับเกี่ยวและยกผิวได้ชัดเจน และไหมเรียบที่เหมาะสำหรับการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อให้ผิวกระชับและเรียบเนียนมากขึ้น

การร้อยไหมเหมาะกับใคร?

การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณแห่งวัย เช่น แก้มตก กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีร่องแก้มลึก ผู้ที่อายุประมาณ 30 ปีขึ้นไปมักเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และเลือกการร้อยไหมเป็นตัวช่วย เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ไม่ต้องพักฟื้นนาน และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ข้อดีของการร้อยไหม

สิ่งที่ทำให้การร้อยไหมได้รับความนิยมคือผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันทีหลังทำ ผิวหน้าจะดูยกขึ้นและมีความกระชับมากขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงและอ่อนเยาว์ต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีข้อดีตรงที่ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ไม่เกิดบาดแผลขนาดใหญ่และไม่ต้องพักฟื้นนาน

ข้อควรระวังและผลข้างเคียงของการร้อยไหมที่อาจเกิดขึ้น

แม้การร้อยไหมจะถือว่าปลอดภัย แต่ก็มีผลข้างเคียงที่พบได้ เช่น อาการบวม แดง หรือช้ำในช่วงแรก รวมถึงความรู้สึกตึงผิวเวลาขยับหน้า ซึ่งมักหายไปเองในไม่กี่วัน แต่หากทำโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจเกิดปัญหาไหมทะลุผิว การติดเชื้อ หรือผลลัพธ์ที่ไม่สมดุลได้ จึงควรเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม

การเตรียมตัวที่ดีก่อนทำหัตถการจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ควรงดการรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี และอาหารเสริมบางชนิด อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ก่อนทำ ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ รวมถึงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และแจ้งประวัติสุขภาพหรือการใช้ยาที่แพทย์ควรทราบ

การดูแลหลังร้อยไหม

หลังจากร้อยไหมควรประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการบวม หลีกเลี่ยงการอ้าปากกว้างหรือเคี้ยวอาหารที่เหนียวจัด รวมถึงควรงดออกกำลังกายหนักและหลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า หรืออบไอน้ำในช่วง 12 สัปดาห์แรก ควรนอนหงายและหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือคว่ำในช่วงแรก เพื่อให้ไหมคงตำแหน่งที่เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์จากการร้อยไหมสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้และการดูแลรักษาหลังทำ แม้เส้นไหมจะละลายไป แต่โครงสร้างคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นขึ้นใหม่จะยังคงช่วยพยุงผิว ทำให้ผิวคงความกระชับและอ่อนเยาว์ไปได้อีกระยะ

ควรเลือกร้อยไหมที่ไหนดี?

การเลือกร้อยไหมไม่ควรพิจารณาเพียงราคาเท่านั้น แต่ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานสะอาด ปลอดภัย และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริง ควรตรวจสอบรีวิวจากผู้ที่เคยเข้ารับบริการ รวมถึงตรวจสอบว่าเส้นไหมที่ใช้ได้รับการรับรองจาก อย. หรือไม่ เพราะทั้งหมดนี้จะส่งผลโดยตรงต่อทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้

สรุป

การร้อยไหมเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยยกกระชับและฟื้นฟูผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีและยังคงอยู่ได้ต่อเนื่องหากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง แม้อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยในช่วงแรก แต่หากเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐาน ก็สามารถมั่นใจได้ทั้งในด้านความปลอดภัยและความสวยงามของผลลัพธ์ หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการร้อยไหมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถปรึกษาฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ของเราได้เลยค่ะ

ทักปรึกษาได้ที่ Line: @homecareclinic นะคะ