แชร์

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร? วิธีลดใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึกให้ดูสดใสแบบไม่ต้องพักฟื้น

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร? วิธีลดใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึกให้ดูสดใสแบบไม่ต้องพักฟื้น

ปัญหาใต้ตาลึก ร่องใต้ตาชัด หรือความหมองคล้ำใต้ดวงตา คือหนึ่งในปัญหายอดฮิตที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า แม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ตาม หลายคนอาจใช้คอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดรอยคล้ำ แต่ก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราว วิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบันคือการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และให้ผลลัพธ์ในทันที

 

ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?

ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eye Filler) คือการฉีดสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบหลักคือ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในร่างกายของเราอยู่แล้ว การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาจะช่วยเติมเต็มร่องลึก ใต้ตาคล้ำ หรือเบ้าตาลึกให้ดูตื้นขึ้น ผิวใต้ตาดูชุ่มชื้น สดใส และใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

 

ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร?

  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา
  • ใต้ตาลึก เบ้าตาลึก ทำให้หน้าดูโทรม
  • มีร่องใต้ตาชัด ทำให้เห็นถุงใต้ตาเด่นชัด
  • ใต้ตาหมองคล้ำจากโครงสร้าง ไม่ใช่สีผิว
  • ต้องการดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีสัญญาณของความเสื่อมของคอลลาเจนรอบดวงตา

 

ฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลเมื่อไหร่? อยู่ได้นานแค่ไหน?

หนึ่งในข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือ เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด ผิวใต้ตาจะดูอิ่มฟูขึ้นทันที แต่จะเข้าที่และดูเป็นธรรมชาติที่สุดภายใน 5-7 วัน และอยู่ได้นาน ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำ

 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ใช่เรื่องอันตราย หากทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่าน อย. ไทยเท่านั้น เพราะบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทจำนวนมาก หากฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านกายวิภาค อาจเกิดปัญหาเช่น ฟิลเลอร์ไหลเป็นก้อน ตาเขียวช้ำ หรืออันตรายรุนแรง เช่น ตาบอดได้ ดังนั้น การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

 

ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

1. ต้องประเมินโครงสร้างใบหน้าก่อนเสมอ

แพทย์จะพิจารณาว่าปัญหาใต้ตาที่เกิดขึ้นเกิดจากกระดูกยุบ ไขมันลดลง หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง เพื่อเลือกเทคนิคที่เหมาะสม

2. ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้มักไม่มาก

โดยทั่วไปจะใช้ประมาณ 1-2 cc ขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละบุคคล

3. ผลลัพธ์ที่ได้ต้องดูเป็นธรรมชาติ

ไม่ควรฉีดจนแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ดันขึ้นมาเป็นก้อน หรือทำให้ตาดูบวม

 



หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?

เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ ควรปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการจับ กด หรือนวดแรง ๆ บริเวณใต้ตาในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
  • งดกิจกรรมที่ทำให้หน้าโดนความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและฟูเต็มที่
  • เข้าตรวจเช็กกับแพทย์ตามนัดหมาย

 

ฟิลเลอร์ใต้ตา ทางเลือกยอดนิยมเพื่อหน้าเด็กแบบไม่ต้องพักฟื้น

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก ตาคล้ำ ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า จุดเด่นคือเห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้น และเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ จะให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย และยังเป็นธรรมชาติ

หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์ของแท้ 100% ผ่านมาตรฐาน อย. ไทย สามารถปรึกษาฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ของเราได้เลยค่ะ ทักปรึกษาทางออนไลน์ที่ Line: @homecareclinic นะคะ




 


บทความที่เกี่ยวข้อง
เมโสแฟต
รู้จักเมโสแฟตแบบเจาะลึก พร้อมคำแนะนำที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด
หัตถการความงาม
“หัตถการความงาม” กลายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยยอดฮิตที่ทำให้ใคร ๆ ก็ดูดีขึ้นได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ฟิลเลอร์เติมเต็ม หรือร้อยไหมยกกระชับ ทั้งหมดนี้ทำโดยแพทย์และปลอดภัย ช่วยให้คุณมั่นใจขึ้นแบบเห็นผลจริง
IV Vitamin drip
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “วิตามินดริป” หรือ “IV Drip” แต่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร จริง ๆ แล้วมันคือการบำรุงสุขภาพและผิวพรรณแบบเร่งด่วน!
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy